หลังจากประกาศผล Oscar ไปเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ก็เกิดประเด็นหรือเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมากมายทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากบทสัมภาษณ์ผู้ร่วมงานหรือแม้กระทั่งดราม่าจากโลกโซเชียล ทาง MONOMAXXX จึงได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาให้คอหนังได้อัพเดทกัน จะมีประเด็นไรบ้าง ไปดูกันเลย
หลังจากที่ Spotlight คว้ารางวัลใหญ่จากเวที Oscar จากสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครองแล้ว ก็เกิดปรากฎการณ์ Spotlight Effect ขึ้นมา เมื่อนาย มิเชลล์ การาบิเดียน อดีตทนายความที่ทำคดีลวงละเมิดทางเพศ (เหมือนที่เราเห็นในเรื่อง) ออกมาเผยกับสื่อว่าเขาได้รับโทรศัพท์จากเด็กที่เป็นเหยื่อการล่วงละเมิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหยื่อเหล่านี้ก็ได้บอกว่าตอนนี้เสียงของพวกเขาไปถึงสังคมแล้วผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงแม้เหยื่อคนหนึ่งจะเชื่อว่า Spotlight ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคริสตจักรในสังคมได้
แต่อย่างไรก็ตามตอนที่ผลรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประกาศเสร็จ ไมเคิล ชูการ์ หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างของเรื่องก็ได้กล่าวสุนทรพจน์วอนให้พระสันตะปาปาฟานซิส “ปกป้องพวกเด็ก ๆ และฟื้นฟูศรัทธา”
คริส ร็อคพิธีสุดฮาประจำ Oscar 2016 ได้นำลูกสาวและเพื่อน ๆ ของลูกตนที่เป็นเนตรนารีมาขายคุ๊กกี้ให้กับคนในงาน ซึ่งผลตอบรับก็ออกมาดีมาก และได้เผยจำนวนเงินในช่วงท้ายว่าสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 65,243 เหรียญสหรัฐ
แต่อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ TMZ ได้ไปสัมภาษณ์เนตรนารีผู้หนึ่งและรายงานว่าความจริงแล้วพวกเด็ก ๆ ขายคุ๊กได้ประมาณ 500 กล่อง กล่องละ 5 ดอลลาร์ และเมื่อนำมาคำนวนดูแล้วจะได้จำนวนเงินทั้งสิ้น 2,500 เหรียญสหรัฐซึ่งห่างไกลกับ 65,000 ดอลลาร์อยู่เยอะ แต่อย่างไรก็ตามในงานประกาศผลเวทีใหญ่ขนาดนี้เหล่าเนตรนารีคงได้ทิปจากบรรดาเซเลบริตี้และแขกผู้ร่วมงานอยู่เยอะพอสมควร หรือไม่ก็คริส ร็อคสมทบเงินตัวเองเพื่อให้กับลูก ๆ
และเมื่อพูดถึงเรื่องรสชาติของคุ้กกี้แล้ว คงอร่อยไม่ใช่น้อย เพราะตอนที่ประกาศผลรางวัลเสร็จสิ้นแล้ว มอร์แกน ฟรีแมน หนึ่งในผู้ร่วมงานยังเดินไปฉกคุ๊กกี้จากมือคริส ร็อคที่กำลังพูดอยู่บนเวทีมากินซะเอง
คริส ร็อคได้นำเด็ก 3 คนขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับพูดว่าพร้อมกับพูดว่า “พวกเขาส่งตัวแทนที่ทุ่มเท คำนวนแม่นยำและทำงานหนัก มาให้เรา ขอเสียงต้อนรับให้กับ มิง ซู,เบา ลิง, เดวิด มอสโควิทซ์” ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ถ้าใครไม่พอใจเรื่องมุกนี้แล้วละก็ ให้ไปทวิตเอาเองบนโทรศัพท์ซึ่งก็สร้างโดยเด็กพวกนี้อีกอะแหละ”
ซึ่งการที่คริส ร็อคปล่อยมุกแบบนี้ก็ทำให้คนกลุ่มหนึ่งรู้สึกไม่พอใจ บางก็ทวิตข้อความว่า “ปล่อยมุขล้อคนเอเชียในงาน Oscar แล้วเที่ยวไปเทศนาเรื่องความหลากหลายทางชาติพันธุ์เนี่ยนะ ?” หรือไม่ก็ “เล่นมุขเกี่ยวกับการสเตอริโอไทป์คนเอเชียและแรงงานเด็ก ฉันไม่ขำหรอกนะ คริส ร็อค” แม้กระทั่ง Jeremy Lin นักบาสเกตบอลใน NBA ก็ได้แชร์ประเด็นดังกล่าวพร้อมกับเขียนแคปชั่นว่า “นี้จริงจังนะ เมื่อไหร่ไอ้เรื่องนี้จะเปลี่ยนสักที ?!? ระอากับเรื่องที่ทำเป็น ‘เจ๋ง’ และ ‘แน่’ แล้วมาทำเรื่องแย่ ๆ ใส่คนเอเชียแล้วนะ”
อย่างที่เราได้เห็นกันว่า ซาชา บารอน โคเฮน ได้รับเชิญไปขึ้นเวทีเพื่อแนะนำภาพยนตร์เรื่อง Room ที่เข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งเขาก็ได้ปรากฎตัวในลุคของ Ali G หนึ่งในตัวละครที่เขาเคยเล่นไว้ ซึ่ง ซาชา บารอน ก็มาเผยในภายหลังว่าทาง Oscar ไม่ได้อนุญาตให้เขาแต่งตัวเป็น Ali G
“ก่อนหน้านี้ทาง Oscar ให้ผมนั่งลงและพูดกับผมว่าพวกเขาไม่อยากให้ทำอะไรที่นอกเหนือจากที่สั่ง เขาอยากผมขึ้นโชว์ตัวที่เป็นตัวผมเองจริง ๆ (ไม่ใช่ Ali G)”
แต่อย่างไรก็ตาม ซาขา โคเฮน ก็ได้อ้างว่าปวดท้องเพราะอาหารเป็นพิษและได้หลบเข้าไปห้องน้ำคนพิการกับ อิซล่า ฟิชเชอร์ ภรรยาของเขาและจัดองค์ทรงเครื่อง ใส่หมวกสีแดง ติดเคราแพะ ออกมาเป็น Ali G และขึ้นเวทีในชุดแบบนั้นในที่สุด
นอกจากนี้ โคเฮน ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงมุกเรซิสต์ที่เขาไปเล่นบนเวทีอีกด้วยว่าเขา “ตอนแรกผมรู้สึกกังวลอยู่บ้างกับปฏิกริยาคนดูต่อมุกแรกที่ผมปล่อยไป แต่ผมก็ได้เดินไปชนกับ คริส ร็อค เข้าระหว่างทางเลยลองเล่นมุกนี้ใส่เข้าดู ปรากฎเขายกนิ้วให้ ผมก็เลยนำไปเล่นบนเวทีซะเลย”
เป็นที่รู้กันดีว่ากว่าลีโอนาร์โด ดิคาปริโอจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านการเข้าชิงมาทั้งหมดกี่ครั้ง นานถึง 22 ปี กว่าจะได้รางวัล Oscar ครั้งแรกไปครอง ทำให้ Oscar ปีที่ผ่านมาลีโอโดนชาวเน็ตสร้าง Meme รูปภาพแซวกันอย่างล้นหลาม แต่พอเขาได้รางวัลไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหมือน Meme ของลีโอยังมีให้เห็นอยู่บนอินเตอร์เน็ต ทั้งแซวเล่นว่าประกาศผิดไปบ้าง เพราะเวทย์มนต์ตอนที่เลดี้ กาก้าเดินชนบ้าง หรือ ยังคงอยู่ในความฝันจากเรื่อง Inception ที่เจ้าตัวแสดง
แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่ชาวเน็ตแซวไปนี้ก็ด้วยความชื่นชอบทั้งสิ้น #TeamLeo
ดูภาพยนตร์รางวัล Oscar คลิก