Knock Knock หรือชื่อไทย ล่อมาเชือด ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ได้ผู้กำกับแนวถนัดอย่าง Eli Roth มาสร้างความหฤโหด ร่วมกับพระเอกซุปเปอร์สตาร์ Keanu Reeves กับเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เปิดประตูต้อนรับหญิงสาวสองคนให้เข้ามาหลบฝน โดยหารู้ไม่ว่าหายนะกำลังจะมาเยือน เพราะว่าเบื้องหลังความสดใสของหญิงสาวแฝงไปด้วยความโหดร้ายในชนิดที่คุณจะต้องคาดไม่ถึง
แม้หน้าหนังของ Knock Knock จะดูเป็นแนวหนังโหดสั่นประสาทที่ขายความลุ้นระทึก และความเซ็กซี่ของสองสาว เพื่อสนองความบันเทิงของแฟนหนังกลุ่มนี้ แต่จริงๆแล้วเบื้องหลังการสร้างหนังเรื่องนี้ของผู้กำกับสุดโหดมีที่มาที่ไปจากเรื่องราวของสังคมยุคใหม่ที่คนเสพติดโซเชียลมีเดียจนเกินขนาด ซึ่งวันนี้ doonung.com ได้นำเอาบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับ Eli Roth มาให้คอหนังได้อ่านกันเพลินๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปชมภาพยนตร์ 'Knock Knock ล่อมาเชือด' ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ Eli Roth เกี่ยวกับที่มาของภาพยนตร์ Knock Knock
ผมมักจะชอบทำหนังแนวที่เราออกจากพื้นที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยมากที่สุด เพื่อออกไปเผชิญโลกกว้างและต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตรายภายนอก อย่างหนังเรื่องแรกของผมอย่าง "Cabin Fever” หรือ “Hostel” และ "The Green Inferno” ล้วนเป็นเรื่องราวทำนองนี้ทั้งนั้น จนกระทั้งวันหนึ่งขณะที่ผมถ่ายทำหนังอยู่ผมก็เริ่มมีไอเดียที่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากปัญหาได้เข้ามาหาเราถึงบ้านของเราเองถ้าหากสิ่งที่ล่อตาล่อใจมาเชื้อเชิญเราถึงหน้าประตูบ้าน และเมื่อเรายอมให้มันเข้ามาในที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยมากที่สุด ที่ที่เราคิดว่าเราสามารถที่จะควบคุมมันทุกอย่างได้ แต่คุณไม่รู้เลยว่ากำลังนำหายนะมาสู่ตัวเอง จะเกิดอะไรขึ้นหากมีใครอีกคนมาทำลายโลกของคุณ ทุกสิ่งที่คุณได้สร้างมันขึ้นมา ต้องพังลงไปต่อหน้าต่อตาคุณ
ก็คงเป็นนิสัยของคนทุกๆคนที่อยากได้ในสิ่งที่เราไม่เคยมี เมื่อผมเริ่มมีอายุมากขึ้นก็เริ่มเห็นว่ามันมีช่องว่างระหว่างวัยเรากับวัยรุ่นมากขึ้น ด้วยความที่สมัยนี้มีโซเชียลมีเดียมากมาย วัยรุ่นเริ่มแยกแยะไม่ออกถึงการนำเสนอเรื่องเพศในสื่อต่างๆ จนไม่แน่ใจว่าอายุจริงๆของพวกเขาเหล่านั้น 14 หรือ 24 กันแน่ ในโลกที่ทุกคนสามารถเข้าถึงรูปภาพหรือสถานการณ์ต่างๆได้อย่างง่ายได้ ทั้งความรุนแรง และเรื่องเพศจนรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ยุคที่ทุกคนต่างต้องการมีตัวตนบนโลกของโซเชียลมีเดียเพียงเพื่อยอด ไลค์ ที่มากกว่าคนอื่น ในขณะที่คนยุคผม พวกอินสตาแกรม และ ทวิสเตอร์ ไม่ได้มีความสำคัญในชีวิตขนาดนั้น โดยเฉพาะ เฟสบุค ยิ่งไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้นเมื่อเทียบกับวัยรุ่นสมัยนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความคนรุ่นๆผมจะไม่สงสัยอยากรู้เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นในสมัยนี้ ด้วยความที่โลกมันหมุนเร็วขอบเขตในการที่ทุกคนจะรู้จักกันได้ขยายออกไปอย่างมาก จนไม่รู้ว่าเด็กๆควรจะออกเดทเมื่อมีอายุเท่าไหร่ดี ทุกคนมาสามารถเข้าถึงกันได้อย่างง่ายได้ด้วยการกด ไลค์ ในยุคที่สื่อลามกต่างๆไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อความรู้สึกของพวกเขาเพราะมันง่ายมากเหลือเกินที่จะเข้าถึงเพียงแค่พวกเขามีมือถือก็สามารถจะเข้าถึงมันได้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นหากชีวิตแต่งงานที่แสนจะสมบูรณ์บอกของคุณที่พยายามสร้างมาทั้งชีวิตต้องพังทะลายลงไป เพียงแค่คืนหนึ่งที่คุณอยากจะลองมีเซ็กส์กับเด็กสาวแบบที่คุณจินตนาการไว้ เด็กสาวสมัยใหม่ที่มีมองความรุนแรงเป็นเพียงเรื่องธรรมดา
หนังเรื่องนี้ ผมก็ต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าโลกที่เราพยายามสร้างขึ้นมานั้นจริงๆแล้วมันบอบบางขนาดไหน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณพยายามทำทุกอย่างที่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องสิ่งที่ดี คุณจบจากโรงเรียนที่ดี คุณคบกับคนดีๆ มีครอบครัวตั้งรกรากด้วยกัน สร้างครอบครัวที่ดีมีความสุข แต่กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป ถ้าหากเพียงแค่คืนหนึ่งที่คุณอยากจะลองทำอะไรตามจินตนาการที่คุณฝันถึง คุณจะดึงตัวเองกลับมาได้หรือไม่ ผมอยากให้คนดูรู้สึกไปกับตัวละคร อีแวน ตัวละครหลักของเรา รู้สึกไปกับสิ่งที่เขาเลือก
อีแวน พยายามที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่เขาไม่อาจจะปฏิเสธสาวๆที่ยืนอยู่หน้าบ้านและพยายามยั่วยวนเขาอยู่ อีแวนคิดว่าเขาจะสามารถจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้ แต่มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบในชีวิตของเขา คนในวัย40 อย่างเขา ไม่มีทางจะรู้ได้ถึงความร้ายกาจของโซเชียลมีเดียที่จะทำลายชีวิตของเขาได้ เพราะเขาไม่เคยนึกถึงวิธีรับมือกับเรื่องพวกนี้ วัยรุ่นสมัยนี้โตมากับการใช้โซเชียลมีเดียในการทำร้ายคนอื่นๆ ทำให้พวกเขารู้วิธีที่จะทำร้ายคนอื่นๆได้
ผมค้นพบว่าการทำลายความสัมพันธ์นั้นเป็นอะไรที่เจ็บปวด มันสามารถถูกทำลายลงได้อย่างง่ายได้ด้วยคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของมัน ซึ่งก็เปรียบกับความสัมพันธ์ของอีแวนกับครอบครัวของเขา กับชีวิตที่เขาสร้างขึ้นมา เขาจะรักษามันได้หรือไม่ หรือเขาต้องสูญเสียทุกสิ่งที่เขาสร้างมาไปในพริบตา
ผมอยากให้หนังเรื่องนี้ได้นำเสนอและตั้งคำถามกับคนทุกคน ผมต้องการที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้คนดูได้ตระหนักคิดแต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความสนุกกับคนดูด้วย ผมไม่ได้อยากให้คนดูเกลียดตัวละครสองสาวและก็อยากให้คนดูเขาใจพวกเธอด้วย สำหรับพวกเธอทั้งสองเองนั้นก็ตกเป็นเหยื่อของคนอื่นอีกต่อหนึ่ง สิ่งที่เขาทำกับอีแวนนั้นพวกเธอมองว่ามันคือการบำบัด ผมอยากนำเสนอ ความร้ายกาจของโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน
'Knock Knock ล่อมาเชือด' เข้าฉาย 26 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์