เรียกได้ว่ามีอะไรมาให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันเรื่อย ๆ สำหรับ เจ. เค. โรล์ลิ่ง นักเขียนชื่อดังจากนิยายแฮรี พอตเตอร์ ที่ชอบปล่อยข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ตามเสพ ถึงแม้นิยายเรื่องดังกล่าวจะจบไปตั้งนานแล้วก็ตาม ซึ่งครั้งนี้ เจ.เค. โรล์ลิ่ง ก็ได้ออกมาเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Pottermore ว่ามีโรงเรียนเวทย์มนต์ถึง 11 แห่งด้วยกันพร้อมทั้งให้รายละเอียดของโรงเรียน 5 แห่งในนั่น
Mahoutokoro (มาโฮโทโกโระ)
โรงเรียนญี่ปุ่นโบราณแห่งนี้เป็นโรงเรียนเวทย์มนต์ที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับ 10 โรงเรียนที่เหลือ ซึ่งเด็ก ๆ จะเข้าที่นี้ได้ตอนอายุ 7 ขวบ (ถึงแม้จะเริ่มเรียนจริง ๆ ตอนอายุ 11 ปีก็ตาม) มาโฮโทโกโระเป็นโรงเรียนไปกลับต่างจากฮอร์ควอร์ตที่จะให้อยู่ประจำ ในทุก ๆ วันพวกเด็ก ๆ จะโดยสารอยู่หลังฝูงนกน้ำขนาดยักษ์เพื่อไปกลับระหว่างบ้านและโรงเรียน ปราสาทของมาโฮโทโกโระสร้างมาจากหินหยกเนื้ออ่อนสีขาวโปรงที่หรูหราและวิจิตรตระการตา ซึ่งตั้งอยู่ ณ สถานที่ที่ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่อย่างภูเขาไฟอิโวะ จิมะ
เมื่อเด็ก ๆ เข้ามาเรียนที่นี่จะได้รับเสื้อคลุมเวทย์มนต์ทันที โดยความพิเศษของเสื้อนี้ก็คือจะขยายใหญ่ขึ้นตามขนาดตัวนักเรียนที่เพิ่มและจะเปลี่ยนสีตามระดับความรู้ของผู้ที่สวมใส่ โดยแรกเริ่มจะเป็นสีชมพูจาง ๆ จนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีทองเมื่อมีความรู้สูงสุด และถ้าหากเสื้อคลุมเปลี่ยนไปเป็นสีขาวนั่นหมายความว่าผู้สวมใส่ได้กระทำผิดกฎเวทย์มนต์ของญี่ปุ่นหรือเข้ากับศาสตร์มืด
มาโฮโทโกโระไม่ได้มีชื่อเสียงด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ยังโดดเด่นเรื่องของกีฬาควิดดิชอีกด้วยเนื่องจากมีการฝึกที่หฤโหดและหนักหน่วงท่ามกลางทะเลที่คลุ้มคลั่ง
Uagadou (แวกกาดู)
ถึงแม้โรงเรียนแห่งนี้จะมีจำนวนนักเรียนน้อยที่สุดแต่ แวกกาดู ก็ยืนยัดผ่านวันเวลามาอย่างยาวนาน (พันปีเป็นอย่างน้อย) และยังเป็นโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา 11 โรงเรียนจนสามารถลองรับนักได้ทั้งทวีป โดยที่ตั้งสถานที่แห่งนี้เท่าที่ได้มามีเพียงแค่ข้อมูลเดียวนั่นก็คือ “เทือกเขาจันทรา” ที่ผู้มาเยือนได้กล่าวไว้ว่าเป็นสถานที่สถานที่ที่สวยสดงดงามด้วยฝีมือการแกะสลักผนังภูเขาและหมอกที่ปกคลุมจนบางครั้งทำให้รู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ
เวทย์มนต์ของแวกกาดูส่วนมาก (บ้างก็บอกว่าทั้งหมด) ล้วนมาจากท้องถิ่นทั้งสิ้นและเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านดาราศาสตร์ การเล่นแร่แปรธาตุ และ การจำแลงกาย
ส่วนเด็ก ๆ ที่ได้คัดเลือกมาเรียนที่แวกกาดูนั่นจะได้รับสารจากผู้ส่งฝันที่ครูใหญ่ขณะนั่นเป็นคนส่งไป โดยผู้ส่งฝันจะปรากฎตัวตอนที่เด็ก ๆ หลับใหลและจะทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นศิลาจาลึกที่จะพบในมือของเจ้าตัวขณะตื่นขึ้น ซึ่งวิธีการคัดเลือกเด็กแบบนี้มีที่แวกกาดูที่นี่ที่เดียว
Castelobroxo (คาสเทลโลบรูชู)
โรงเรียนเวทย์มนต์สัญชาติบลาซิลที่รับนักเรียนได้ทั่วทวีปอเมริกาใต้ ว่ากันว่าคาสเทลโลบรูซูซ่อนตัวลึกอยู่ในป่าดงดิบ โดยคาลเทลโลบรูชูจะตกแต่งด้วยหินสีทองอร่ามตาจนบ่อยครั้งได้ถูกนำไปเทียบกับวัดวาอาราม แต่อย่างไรก็ตามพวกมักเกิ้ลจะเห็นปราสาทที่งดงามนี้เป็นเพียงแค่ซากปรักหักพังเท่านั่น นักเรียนของคาสเทลโลบรูชูจะใส่เสื้อคลุมสีเขียวสดและจะเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและสัตวเวทย์มนต์วิทยา
Beauxbatons Academy of Magic (สถาบันเวทย์มนต์โบซ์ซ์บัตท่อน)
โบซ์บัตท่อนตั้งอยู่สักแห่งในเทือกเทือกเขาพิเรนีสระหว่างประเทศฝรั่งเศสและสเปนที่ผู้มาเยือนมักกล่าวว่ามีปราสาทที่สวยงดงามจนแทบลืมหายใจแถมยังรายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าและสวนดอกไม้ซึ่งสร้างขึ้นด้วยเวทย์มนต์
สถาบันโบซ์บัตท่อนแห่งนี้มีนักเรียนส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส แต่อย่างไรก็ตามยังมีนักเรียนที่เป็นชาวสเปน โปรตุเกส ฮอลแลนด์ และ เบลเยี่ยม เข้าศึกษาเป็นจำนวนมากเช่นกัน (ทั้ง โบซ์บัตท่อน และ ดรูมสแตรง มีทุนมหาศาลมากกว่า ฮอร์ควอร์ต) ว่ากันกว่าปราสาทแสนงามและพื้นสถาบันแห่งนี้ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากเพอรีเนล และ นิโคลัส เฟลมเมล 2 นักเล่นแร่แปรธาตุทองคำที่พบกันที่โบซ์บัตท่อนในช่วงเยาว์วัยและมีน้ำพุที่แสนโอ่อ่าอยู่กลางสวนของโรงเรียนโดยเป็นชื่อของพวกเขา ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำพุแห่งนี้จะช่วยเยียวยาและรักษาไว้ซึ่งความงาม
โบซ์บัตท่อนยังคงรักษาความสัมพันธ์กับฮอร์ควอร์ตอยู่เสมอ ถึงแม้จะเป็นคู่แข่งตัวฉกาจในการแข่งขันระดับนานาชาติอย่าง การประลองเวทไตรภาคีที่โบซ์บัตท่อนชนะ 62 ครั้งและฮอร์ควอร์ตชนะ 63 ครั้ง
Durmstrang (เดิร์มสแตรงก์)
ครั้งหนึ่งเดิร์มสแตรงก์เคยมีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องศาสตร์มืดเป็นที่สุดในบรรดา 11 โรงเรียนและได้ผลิตจอมเวทย์ที่เก่งกาจออกมามากมายและพวกเขาเหล่านั่นก็ตกอยู่ในการดูแลของพ่อมดที่ทำทีเป็นจงรักภักดีแต่ก็ยังมีเลศนัย และมีจิตมุ่งร้ายสองครั้งสองคราในหน้าประวัติศาสตร์
แต่อย่างไรก็ตามหลายปีมานี้โรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ก็ได้รับการฟื้นฟู แถมยังผลิตผู้ทรงคุณวุฒิในฐานะนักกีฬาควิชดิชระดับนานาชาติอย่าง วิกเตอร์ ครัม อีกด้วย
ทั้งนี้เดิร์มแสตรงก์เป็นโรงเรียนที่มีความลับมากที่สุดในบรรดาโรงเรียนทั้งหมดในเรื่องของสถานที่ตั้งซึ่งไม่มีใครชี้ชัดได้ แต่อย่างไรก็ตามมีคนเชื่อกันว่าสถานที่ของโรงเรียนนี้ตั้งอยู่ไกลออกไปทางตอนเหนือของยุโรป ซึ่งผู้มาเยือนทั้งหลายต้องถูกลบความทรงจำตั้งแต่วิธีการเดินทาง ทิวทัศน์ที่สวยงามไกลสุดตา ที่เด่นไม่แพ้กันเลยก็คือเรือดำเงาขนาดยักษ์ที่จอดอยู่ ณ ริบทะเลสาบข้างหลังโรงเรียน ที่เด็ก ๆ จะดำน้ำเล่นในช่วงฤดูร้อน