หนึ่งในนักแสดงที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศที่ฝากฝั่งผลงานอินเตอร์ไว้มากมายตั้งแต่เรื่อง Fast&Furious 7, Skin Trade และ S.P.L. 2 ทาง MONOMAXXX จึงได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ จา พนม หรือที่รู้จักกันในชื่อ โทนี่ จา มาให้แฟน ๆ ได้อ่าน จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. จา พนม คนหลายชื่อ
แต่เดิมชื่อแรกสุดของเขาคือ “วรวิทย์ ยีรัมม์” แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พนม” ด้วยเหตุผลทางการแสดง และภายหลังเขาก็เปลี่ยนชื่ออีกรอบเป็น “ทัชชกร” ด้วยเหตุผลด้านความเชื่อ นอกจากนี้ยังใช้ชื่อ “โทนี่ จา” ในการโกอินเตอร์อีกด้วย
2. จา พนม กับที่มาของคำว่า “จา”
ก็เหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ วรวิทย์ ยีรัมม์ ในวัยเด็กชอบเล่นต่อสู้กับเพื่อน ๆ และตั้งตัวเองเป็นหัวหน้ากลุ่ม ชาวบ้านแถวนั้นเลยตั้งฉายาให้ว่า “จ่า” ซึ่งแปลว่าหัวหน้าทีมและเรียกแทนชื่อเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แล้วพอเรียกไปเรื่อย ๆ คำว่า “จ่า” ก็เพี้ยนไปเป็น “จา”
3. จา พนม มีเจ็ทลี เฉินหลง และ บรูซ ลี เป็นไอดอล
ในวัยเด็ก จา พนม ชอบดูหนังกลางแปลงของนักแสดงดังกล่าวทำให้เขารู้สึกสนใจในศิลปะการต่อสู้และเริ่มไปฝึกฝนตามด้วยตัวเอง ซึ่งในตอนนั้น จา พนม ยังเป็นเด็ก 10 ขวบอยู่เลย
4. จา พนม กับ “เกิดมาลุย”
“เกิดมาลุย” ในข้อนี้หมายถึงชื่อของภาพยนตร์ในปี 2529 ที่แสดงนำโดย พันนา ฤทธิไกร ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับ จา พนม จนถึงขั้นร้องขอให้พ่อพาไปฝากตัวกับ พันนา ซึ่งขณะนั้นพันนากำลังถ่ายทำหนังเรื่อง ปีนเกลียว อยู่ที่ขอนแก่น สุดท้ายพันนาก็ต้องปฏิเสธไปเนื่องจากตอนนั้นจา พนมยังเด็กและเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่านั้นแต่ก็อนุญาติให้มาฝึกงานในกองท้ายหลังปิดเทอม
5. จา พนม เข้าวงการครั้งแรกในบทบาทเด็กเสิร์ฟน้ำ
ไม่ใช่แสดงเป็นเด็กเสิร์ฟน้ำนะ แต่เป็นเด็กเสิร์ฟน้ำจริง ๆ ที่เอาน้ำให้กับคนในกองถ่ายนี้ละ นอกจากเสิร์ฟน้ำแล้วเขายังต้องทำอาหาร ช่วยยกของ และเป็นตัวประกอบพร้อมกับฝึกฝนวิชาการต่อสู้แถมตอนนั้นเขาอายุแค่ 14 อีกด้วย
6. จา พนม สืบเชื้อสายมาจากชาวกูยโบราณ
ชาวกูยโบราณเป็นกลุ่มชนเผ่าที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยทำมาหากินด้วยการทำนา ปลูกผัก เลี้ยงช้าง นอกจากนี้ชาวกูยยังมีความสามารถพิเศษทางกายภาพ เช่น กระโดดสูง กระโดดไกล มีสปริงข้อเท้าที่ดี เรียกได้ว่ามีความสามารถที่เอื้อต่อการต่อสู้มาตั้งแต่เกิด ไม่เชื้อลองดูชาวกูยดัง ๆ อีกคนอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ สิ
7. จา พนม เป็นนักกีฬามาก่อน
ด้วยความสามารถพิเศษทางกายภาพที่มีมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้ จา พนม มีความสามารถด้านกีฬาและกรีฑาเด่นเป็นพิเศษ จนได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬาดีเด่นของโรงเรียนและประธานชมรมกระบี่กระบอง และขณะที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมกระบี่บองเขายังสามารถคว้าเหรียญทองของทุกปี จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคามอีกด้วย โธ่! คนอะไรจะเก่งขนาดนั้น
8. จา พนม กับการเป็นสตั๊นในหนังอินเตอร์เรื่องแรก
โรบิน โช
ภาพยนตร์อินเตอร์เรื่องแรกของ จา พนม ไม่ใช่ Fast & Furious 7, Skin Trade หรือ S.P.L. 2 แต่หนังเรื่องอินเตอร์แรกที่เขาเล่นก็คือ Mortal Kombat 2 : Annihilation (1997) ซึ่งมาถ่ายทำที่ประเทศไทย พันนา ฤทธิไกรจึงพาตัวเขาไปคัดตัวเป็นนักแสดงแทนของ โรบิน โช และสุดท้ายจา พนมก็สามารถเอาชนะผู้สมัครคนอื่น ๆ อีก 100 คนและผ่านการคัดตัวในที่สุด ส่วนภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ จา พนม เล่นก็คือ สิงห์สยาม ในบทตัวประกอบ
9. จา พนม นักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองที่สุด
ในปี 2548 Entertainment Weekly ได้จัดอันดับให้ จา พนม ติด 1 ใน 200 นักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองที่สุด ซึ่งดาราเอเชียมีชื่อติดอันดับเพียง 2 คนเท่านั้น ได้แก่ จา พนม และ จางอื้อยี่
10. จา พนม ชอบฮิปฮอป
เขาเคยให้สัมภาษณ์ในรายการตีสิบว่า ชอบเพลงฮิปฮอปและเต้นบีบอยในเวลาว่างพร้อมกับบีทบ๊อกและร้องแร๊พโชว์กลางรายการ ขอบอกเลยว่าลีลาฮิปฮอปของเขาเก่งไม่แพ้การแสดงเลย หากไม่เชื่อสามารถดูได้จากที่นี้ คลิก
นอกจากนี้เขายังประยุกต์ฮิปฮอปกับนาฏศิลป์ไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่า “นาฏยุทธ์” อีกด้วย “ด้วยความที่ชอบฮิปฮอป เลยดึงมาประสานเป็น นาฏยุทธ์ ตีความใหม่เรื่องการแสดงเหมือนการเต้นไปตามจังหวะเพลง จะเต้นยังไงให้รู้สึกอินตามไปกับเพลง นาฏยุทธ์” จา พนมกล่าว
ดูหนังเรื่อง SPL 2 ที่ จาพนม แสดง คลิก