หากคิดถึงศิลปินสาวที่ร่าเริงสดใส หลายคนคงคิดถึง เฉินอวี้ฉี โพสนี้เราจะมาทำความรู้จักเธอกัน
ประวัติทั่วไป
ชื่อ: ChenYuQi / 陈钰琪 / เฉินอวี้ฉี
ชื่ออังกฤษ: Yukee Chen
เกิดเมื่อวันที่: 29 กรกฎาคม 1992 ปัจจุบันอายุ 29 ปี
บ้านเกิด: อยู่ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน
ชื่อแฟนด้อม: 曲奇 อ่านว่า ฉวี่ฉี แปลว่าคุกกี้ เพราะเสียงภาษาจีนพ้องกับชื่อศิลปิน
สังกัด: Sunlight Media
Weibo: 陈钰琪Yukee
IG: Yukee_C
ชีวิตนอกจอ
หากใครที่คุ้นเคยกับภาพลักษณ์หญิงสาวสดใส เปิดเผย ตรงไปตรงมา และกล้าหาญของเฉินอวี้ฉีในซีรีส์เรื่องต่างๆ ที่จริงแล้วบุคลิกนี้ไม่ได้ต่างจากตัวตนของเธอ เพราะไม่ว่าใครที่เคยได้พบกับเธอต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอดูเป็นเด็กสาวที่เปี่ยมล้นด้วยพลัง มีความร่าเริง มองโลกในแง่ดี และกล้าคิดกล้าทำเรื่องต่างๆอยู่เสมอ
สิ่งที่เธอชอบทำในเวลาว่างมากที่สุด คือ การเล่นกีฬาประเภทต่างๆ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า การเล่นกีฬานอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายยังเป็นวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายของเธอด้วย นอกจากนี้การออกกำลังกายยังสามารถสร้างแรงจูงใจในการที่จะทำสิ่งใหม่ๆ เพราะคนรอบตัวต่างก็กำลังพยายามพัฒนาตัวเอง เธอจึงไม่อยากเป็นคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และแน่นอนว่าเธอเป็นคนที่ชอบทำสิ่งใหม่ๆอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร ฝึกภาษา วาดรูป เต้น ฯลฯ เพราะเธอคิดว่านอกจากจะเป็นการเปิดประสบการณ์แล้ว ยังเป็นการเตรียมพร้อมสู่โอกาสที่ดีในอนาคตด้วย ถึงแม้ในปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ยังไม่ใช่ทักษะที่เธอต้องใช้ในการทำงานแต่ในอนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ยิ่งกว่านั้นเธอยังเป็นคนใจดีที่คอยเป็นห่วงคนอื่นๆเสมอ นอกเหนือจากคนรอบๆตัวอย่างทีมงาน เพื่อนนักแสดง และครอบครัวแล้ว เธอยังเป็นห่วงแฟนคลับด้วย เพราะเธอมักจะไม่อยากให้แฟนคลับมาตามถ่ายเธอตลอดเวลา และเป็นห่วงพิเศษในช่วงหน้าหนาว
ในด้านไอดอลขวัญใจของสาวคนนี้คือ Amir Khan นักแสดงชาวอินเดีย เธอบอกว่าผลงานแสดงทุกชิ้นของเขานั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบเพราะทุกตัวละครที่เขาแสดงนั้น ไม่ว่าจะบุคลิก สายตา อารมณ์ทุกอย่าง ไม่มีบทไหนที่ดูแล้วรู้สึกซ้อนทับกับบทอื่นๆ ที่นักแสดงคนนี้เคยแสดงเลย
ก้าวแรกสู่วงการบันเทิง
อาชีพนักแสดงคือความฝันของเฉินอวี้ฉี เธอจึงเข้าศึกษาสาขาศิลปะที่สถาบันจิ่นเฉิน มหาวิทยาลัยเสฉวน ถึงแม้เธอไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการแสดงโดยตรง แต่ด้วยความรักในอาชีพเธอจึงไปสมัครเป็นนักแสดงประกอบที่เหิงเตี้ยน
ถึงแม้บทของเธอจะเป็นเพียงตัวละครเล็กๆ แต่เธอก็ตั้งใจทุ่มเทในการแสดงอย่างเต็มที่และมุ่งมั่น ด้วยความเหนื่อยและลำบาก เพราะกองถ่ายนั้นเวลาทำงานจะต้องไปแต่เช้าและเลิกดึกมาก เธอก็ไม่ละความพยายาม แถมยังคอยให้กำลังใจเพื่อนร่วมงานอีกด้วย
จุดเปลี่ยนสำคัญคือตอนที่เธอเข้าแสดงเป็นนักแสดงประกอบในภาพยนตร์เรื่อง “ไซอิ๋ว เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 3” ด้วยความที่ไม่ท้อถอย ในการพัฒนาตนเองและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด จึงทำให้ซุปเปอร์สตาร์สาวตัวแม่อย่าง ถังเยียน ที่รับบทเป็นนางเอกของภาพยนตร์เกิดความประทับใจและชวนเธอเข้าเป็นศิลปินในสังกัด ในช่วงเวลานั้นเธอได้เรียนจบปริญญาตรี และวางแผนที่จะไปเรียนต่อด้านบัญชีตามที่ครอบครัวคาดหวัง ว่าอยากให้เธอทำอาชีพที่มั่นคงอย่างข้าราชการ แต่เธอก็เลือกที่จะทำตามความต้องการของหัวใจ จึงโน้มน้าวครอบครัวและตอบตกลงเข้าร่วมสังกัด และเริ่มเส้นทางศิลปินดังที่ฝัน
หนทางที่ไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบ
ถึงแม้เธอจะได้เข้าสังกัดของถังเยียนและเริ่มเส้นทางสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพ แต่หนทางก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด ด้วยความแข่งขันสูงในตลาดและความเป็นน้องใหม่ในวงการที่ยังคงต้องพัฒนาและฝีกฝนในด้านต่างๆ อยู่เสมอ มีหลายครั้งที่เธอเข้าฉากแล้วถูกผู้กำกับดุจนร้องไห้ และเกิดความกดดันอย่างรุนแรง แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี และไม่ต้องการที่จะเป็นต้นเหตุทำให้การถ่ายทำล่าช้าจนส่งผลกระทบกับตารางงานของทุกคน เธอจึงพยายามทำทุกทางให้ตัวเองสามารถเข้าถึงตัวละคร และแสดงออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุดในระยะเวลาที่จำกัด
จากความทุ่มเทอย่างหนักทำงานอย่างจริงจัง และยังเป็นคนน่ารักเป็นมิตรกับทุกคน ทำให้เธอเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเพื่อนร่วมงานตลอดจนผู้กำกับที่เธอเคยร่วมงานด้วย ในด้านทัศนคติในการทำงานถึงแม้อายุของเธอจะถือว่าไม่น้อยแล้วในเส้นทางอาชีพนี้ แต่เธอบอกว่า “ฉันจะไม่กำหนดเป้าหมาย ในอนาคต 3 ปี หรือ 5 ปีต่อจากนี้จะต้องเป็นอย่างไร เพราะหลายๆ สิ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ฉันจะทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะหากทำปัจจุบันให้ดี เราก็จะมีอนาคตที่ดี”
ผลงานการแสดง
ผลงานแรกอย่างเป็นทางการในฐานะศิลปินมืออาชีพของเฉินอวี้ฉี คือ องค์หญิงเก้าถัวปาตี จากเรื่อง The Princess Wei Young และผู้คนเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาจากบทหลิวอิงท่านหญิงจากเผ่ามาร จากเรื่อง Ashes of Love หลังจากนั้นเธอก็รับบท เตี๋ยเมี่ยง ในซีรีส์แนวยุทธจักรอย่าง Heavenly Sword and Dragon Slaying Sabre ซึ่งทำให้เธอมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักย่างกว้างขวาง
ปีต่อมาเธอก็มีผลงานแนวพีเรียดออกฉายด้วยกัน2เรื่องคือ The Love Lasts Two Minds และ And the Winner Is Love ในปีนี้เธอได้กลับมาอีกครั้งในซีรีส์ฟอร์มยักษ์อย่าง Mirror: A Tale of Twin Cities กับบทไป๋อิง ซึ่งบทนี้มีความแตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่เคยผ่านมา ถือเป็นความท้าทายใหม่ของเธออีกเรื่องหนึ่ง
พามาส่องวิธีจีบหนุ่มแบบเริ่ดๆ ของ "ยูกิลแช" (รับบทโดย อันอึนจิน) สางงามที่ได้ฉายาว่าจิ้งจอก 99 หาง แ…
หากคุณชอบซีรีส์ญี่ปุ่นสายแซ่บอย่าพึ่งเลื่อนผ่าน! มัดรวมซีรีส์ญี่ปุ่นที่ร้อนแรงถึงใจ เผ็ดร้อนเกินต้าน…
รีวิวหน้าที่ประจำวันฉบับบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อ "เซียวโม่" (รับบทโดย กัวเจียหนาน) มาดูกันว่าเขาคอยตามจีบ…
คำเตือน! โปรดระวังเอเลี่ยนบุกโลก มัดรวม 6 หนังเอเลี่ยนบุกโลกที่คุณไม่ควรพลาดรับชม ติดตามหนังเอเลี่ยน…
นาอีซู ผอ.คนใหม่ประจำโรงเรียนมัธยมปลายพาเร กับนโยบายใหม่สุดจี๊ด! ที่พร้อมจะมาปั่นป่วนโรงเรียนอันดับห…
ส่อง 5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับทายาทสาว "ซังโจ เมกะ" จากซีรีส์ญี่ปุ่น "ป่วนหัวใจรักนายบอดี้การ์ด The P…
ตามมารับชมซีรีส์จีนแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ "โค้ชรักให้เธอยิ้ม Smile Code" นำแสดงโดย หลินอี เสิ่นเยว่ เย…
พรีวิวภาพความสนุกจากซีรีส์ไฮสคูลเกาหลี แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ประธานเจนใหม่ วัยมันส์ The Chairman Is L…