ภาพยนตร์เรื่อง SPL 2: A Time for Consequences ก็ได้ฤกษ์ดีเข้าฉายในรูปแบบออนไลน์ที่ MONOMAXXX ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็โด่งดังที่จีนอย่างมากและยังได้ตัวนักแสดงไทยอย่าง จา พนม มาร่วมแสดงนำ วันนี้ทางเราจึงได้จัดหาข้อมูล 8 เรื่องเกี่ยวกับ SPL 2 ที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้ จะมีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันเลย
1) SPL 2 แปลว่าอะไร ?
SPL หรือ Sha Po Lang (杀破狼) ย่อมาจากภาษาจีน Qi Sha, Po Jun และ Tan Lang ใช้อ้างถึงดาว 3 ดวงในโหราศาสตร์จีนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ อำนาจ การทำลายล้าง และ ความโลภ ตามลำดับ โดย SPL 2 ก็ใช้คำเหล่านี้แทนลักษณะนิสัยของแต่ละคนในเรื่อง ซึ่งถ้าอิงจากโปสเตอร์ฝั่งจีนแล้วละก็จางจิ้นจะเป็นตัวแทนของพลัง จา พนมจะเป็นตัวแทนของการทำลายล้าง ส่วนอู๋จิงจะเป็นตัวแทนของความโลภ
2) SPL 2 มีรายรับหนักมาก
SPL 2: A Time For Consequence เปิดตัว 4 วันแรกในจีนก็กวาดรายได้ไปแล้วกว่า 43 ล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ผงาดขึ้นที่ 2 ของบ็อกซ์ออฟฟิศในการเปิดตัวรองจาก Jurassic World และจบด้วยรายได้กว่า 90 ล้านเหรียญ (มากกว่า 3,000 ล้าน) ด้วยทุนสร้าง 775 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 23 หนังทำรายได้สูงสุดในปี 2015 ของบ็อกซ์ออฟฟิศแดนมังกร
3) SPL 2 เป็นบาร์เซโลน่าแห่งหนังบู๊
ตอนที่ทีมนักแสดงจาก SPL 2 ทั้ง เหริน ต๋าหัว,จา พนม, อู๋จิง และ จางจิ้น เดินทางไปโปรโมทภาพยนตร์ที่มาเก๋า เหริน ต๋าหัวถึงกับเอ่ยปากชม SPL 2 ว่าเป็นเหมือนทีมบาร์เซโลน่าที่รวมดาราสายบู๊ที่เก่งกาจที่สุดในโลกไว้ในเรื่องเดียวกัน
ซึ่ง เหริน ต๋าหัว กับ อู๋จิง ก็เคยฝากผลงานไว้กับหนังแอ็คชั่นมากมายและเคยโกอินเตอร์ไปแสดงหนังในเรื่อง Tomb Raider และ The Mummy 3: Tomb of the Dragon Emperor ตามลำดับ ด้านจา พนมก็อย่างที่รู้ ๆ กันดีว่าเคยแสดงหนังในเรื่อง Fast & Furious 7 ประกบคู่กับพอลล์ วอร์คเกอร์ ส่วนจางจิ้นก็เป็นดาราใหม่มาแรงที่คว้ารางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกง ถ้าอย่างนี้ไม่เรียกรวมดาวก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว
4) SPL 2 กับภาคแรกที่ทำออกมาได้ดี (มาก)
Sha Po Lang หรือ SPL ฉายไปเมื่อปี 2005 และยังได้รับรางวัล Best Action Choreography Award มาครองแถมขึ้นแท่นหน้งฮ่องกงทำเงินตลอดกาลอีกด้วย นอกจากนี้ Slashfilm.com ยังชื่นชม SPL 1 ว่าเป็นหนังบู๊ที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีอีกด้วย ซึ่งภาคแรกนั้นนำแสดงโดย ดอนนี่ เยน,เหริน ต๋าหัว และ อู๋จิง แต่ผู้สร้างก็ได้พา อาหว่า ตัวละครจาก SPL 1 ที่รับบทโดย เหริน ต๋าหัว และ อู๋จิง มาร่วมแสดงในภาคนี้ รวมถึงผู้กำกับจากภาคแรกอย่าง วิลสัน ยิป กลับมานั่งแท่นตำแหน่งโปรดิวเซอร์อีกด้วย
5) SPL 2 ไม่ดูภาคแรกก็รู้เรื่อง
SPL 2: A Time for Consequences จะเล่าเรื่องราวของ คิท (อู๋จิง) นายตำรวจฮ่องกงที่แฝงตัวเข้าไปในแก๊งมาเฟียเพื่อโค่นล้มเจ้าพ่อฮุง (กู่ เทียนเล่อ) ทว่าการทำให้ศัตรูเชื่อใจก็ก่อผลเสียต่อเขาจนกลายเป็นตำรวจขี้ยา ท้ายที่สุดเมื่อแผนไม่สำเร็จและถูกเผยตัว คิทก็ถูกส่งไปขังอยู่ในคุกที่เมืองไทย ความแค้นสะสมที่อยู่ในตัวทำให้เขาหาทางแหกคุกเพื่อไปคิดบัญชีกับเจ้าพ่อ คิทได้รับความช่วยเหลือจาก ชัย (จา พนม) ผู้คุมชาวไทยที่ยอมร่วมมือแต่โดยดีเพื่อหาทางช่วยชีวิตลูกสาวที่กำลังป่วย และเมื่อดูเนื้อเรื่องแล้วเนื้อหาจะไม่มีความต่อเนื่องกันกับภาคแรก
6) SPL 2 ได้ผู้กำกับ 100 ล้านมากุมบังเหียน
ถึงแม้จะเปลี่ยนผู้กำกับเป็น เจิ้งป๋อไช่ มาเป็นหัวเรือใหญ่ในการถ่ายทำซึ่งเขาก็เคยฝากผลงานไว้กับ The Monkey King ภาพยนตร์ที่มีรายรับทะลุ 100 ล้าน
ซึ่ง SPL 2 ที่เขากำกับก็กวาดคำชมอย่างถล่มถลายเนื่องจากทำหนังออกมาได้เข้มข้นบีบคั้นอารมณ์ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องครอบครัว มิตรภาพ และการแก้แค้น ซึ่งมักไม่ค่อยพบเห็นความกลมกลืนระหว่างดราม่าและแอ็คชั่นในหนังฮ่องกงฟอร์มยักษ์ขนาดนี้
7) SPL 2 ใช้ตัวประกอบถึง 200 คน
ใน SPL 2 คุณจะเห็นฉากแอ็คชั่นมากมาย แต่มีฉากหนึ่งที่สื่อจีนยกให้เป็นฉากที่ทำให้คนดูถึงกับ “อ้าปากค้าง” นั้นคือฉากบู๊ของ อู๋จิ๋ง กับ จาพนม ที่บู๊กันอย่างตะลุมบอนและใช้ตัวประกอบถึง 200 คนด้วยกัน นอกจากนี้ฉากดังกล่าวอู๋จิ๋งยังเผยอีกว่าถ่ายทำไปกว่า 20 เทคอีกด้วย
8) SPL 2 เป็นเกมมือถือ
ภาพยนตร์เรื่อง SPL2 โด่งดังในประเทศจีนมากถึงขนาดบริษัท SillyFish Digital Entertainment Limited นำมาพัฒนาเป็นเกมมือถือแนวต่อสู้ในชื่อเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี จา พนม เป็นตัวละครหลักและมีโหมดเนื้อเรื่องกว่า 50 ฉากให้เราพร้อมตะลุย รวมไปถึงโหมด Multiplayer ที่ให้เราเล่นพร้อมกันไปกับคนอื่น